เงินทองของมีค่า 3/n
ในปัจจุบันมีเงินหลากหลายรูปแบบมาก ใน newsletter ชุดนี้ เราจะชวนคุยกันว่าเงินคืออะไร ทำไมต้องมีเงิน เพื่อให้เห็นถึงแก่นของปัญหาที่นำมาซึ่งการแก้ไขด้วยเงินครับ
ภาษานั้นสำคัญไฉน
คำว่า Lingua Franca แปลว่าภาษากลาง แต่แปลตรงตัวว่าภาษาชาวแฟรงค์ ซึ่งเป็นชนเผ่าในทวีปยุโรปตะวันตกที่ชอบเดินทาง มีนิสัยจริงใจ ชอบพูดตรง ๆ ซึ่งหลังการล่มสลายของอาณาจักรโรมันก็ได้รวมตัวกันสร้างอาณาจักร Francia ซึ่งกลายมาเป็นประเทศฝรั่งเศสในที่สุด แต่ในยุคนั้นอิทธิพลของ Francia แผ่ขยายมาก คำว่า frank ในภาษาอังกฤษที่แปลว่าคนตรง ๆ ไปจนถึงชื่อของเมือง Frankfurt ก็ได้รับอิทธิพลมาจากอาณาจักรนี้ และอาจเป็นที่มาว่าทำไมไม่ได้มีแต่คนไทยที่เรียกชาวตะวันตกผิวขาวว่า “ฝรั่ง”
ยุโรปยุคกลางเป็นยุคของนครรัฐและอาณาจักร ยังไม่มีแนวคิดเรื่องประเทศ แต่ละท้องถิ่นมีภาษาและวัฒนธรรมของตน แต่เมื่อมีกลุ่มคนที่มีความหลากหลายอยู่ในดินแดนที่เชื่อมต่อกับทางบก จึงสามารถเดินทางและติดต่อค้าขายกันได้โดยง่าย
ด้วยประสบการณ์และความสามารถของรวมกับแรงจูงใจทางเศรษฐกิจของคนค้าขาย การประเมินค่าของสินค้าและเจรจาเพื่อต่อรองราคาแลกเปลี่ยนสามารถทำได้เสมอ แม้สื่อสารกันคนละภาษา แต่หากเงินเป็นที่ยอมรับก็สามารถแลกเปลี่ยนได้ง่าย แม้ว่าเงินจะเป็นไม่เป็นที่ยอมรับ ขอเพียงต่างฝ่ายต่างสามารถยื่นหมูยื่นแมวได้ ถึงจะต้องยากลำบากแค่ไหน มีต้นทุนเท่าไรเพื่อการขนส่งจากแดนไกล แต่หากทำกำไรได้ การค้าก็เกิดขึ้นได้เพราะนั่นคืออาชีพของพวกเขา
นักประวัติศาสตร์เชื่อว่าปัจจัยที่ทำให้ภาษากลางถูกพัฒนาขึ้นมาเป็นเพราะสงครามครูเสดที่เหล่าสาธุชนผู้ศรัทธาในคริสตจักรในโลกตะวันตกออกเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลไปยังดินแดนตะวันออกกลางเพื่อทำสงครามศักดิ์สิทธิ์
เนื่องจากกองทัพครูเสดเป็นกองทัพพันธมิตรที่ประกอบด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา ต่างอาณาจักร ต่างวัฒนธรรม ต่างภาษา แต่จำเป็นต้องสื่อสารระหว่างกันอย่างมีประสิทธิภาพให้ได้เพราะเป็นเรื่องของความเป็นความตาย แม้ภาษามือจะพอใช้สื่อสารกันได้แต่ก็มีข้อจำกัด เมื่อต้องเดินทางด้วยกันและอยู่ร่วมกันเป็นเวลานาน การสื่อสารด้วยภาษาเดียวกันจึงทำให้มีปฏิสัมพันธ์กันได้หลากหลายขึ้น
ต่างกับพ่อค้าที่มีเวลาในการเจรจาแม้จะไม่รู้ภาษาก็ตาม หรืออาจลงทุนศึกษาเพื่อสื่อสารได้หลายภาษา คนทั้งชาติไม่จำเป็นต้องเรียนรู้ภาษาใหม่ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพ่อค้าที่จะต้องไปหาของมาขายแทน ก็สามารถมีสินค้าใหม่ ๆ ได้เช่นกัน แต่หากต้องการจะมีอิสระในการสื่อสารระหว่างกัน การมีภาษากลางก็ทำให้ข้อมูลต่าง ๆ สามารถไหลผ่านระหว่างกันได้อย่างสะดวกขึ้น
ในที่สุดกองทัพครูเสดก็ได้เลือกใช้ภาษาของชาวแฟรงค์ จึงเป็นที่มาของการเรียกภาษากลางว่า Lingua Franca ในที่สุด
ภาษากลางเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในหลากหลายวัฒนธรรมและสังคม อย่างเช่น ในเอเชียกลางยุคก่อนคริสตกาลเป็นภาษาแอราเมอิก ในหมู่นักวิชาการชาวยุโรปในยุคเรอเนสซองส์ใช้ภาษาละติน หรือในอินเดียใช้ภาษาสันสกริตเป็นต้น
การเป็นภาษากลางนั้นขึ้นอยู่กับการยอมรับ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งจากความสมัครใจจะใช้กันอย่างแพร่หลาย หรือมาจากการกำหนดกติกาก็ได้ และขึ้นอยู่กับการใช้งาน อย่างเช่น ภาษากลางของการค้าและวิชาการ อาจจะเป็นภาษาอังกฤษ แต่ภาษาการฑูตและกฏหมายระหว่างประเทศ มี 6 ภาษา ได้แก่ อาหรับ จีนกลาง อังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเซีย สเปน ตามข้อตกลงของสหประชาชาติ เป็นต้น
ผู้ที่สามารถสื่อสารด้วยภาษากลางได้ก็จะได้รับความสะดวกสบาย และผู้ที่ใช้ภาษานี้มาตั้งแต่เกิดก็อาจได้เปรียบผู้ที่ต้องมาเรียนรู้ใหม่ด้วย นอกจากนี้ ภาษายังส่งผลต่อแนวคิดและวัฒนธรรมด้วย การที่ภาษาของวัฒนธรรมใดถูกนำไปใช้เป็นภาษากลาง จึงสามารถเป็นการเผยแพร่ค่านิยมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษานั้นได้ด้วยเช่นกัน
เมื่อเงินเป็นเทคโนโลยีในการเก็บข้อมูล Lingua Franca ของการทำธุรกิจและการเงินก็อาจเปรียบกับสกุลเงิน เมื่อมีแล้วก็ทำให้ผู้คนสามารถทำการค้าและเปลี่ยนกันเองได้อย่างอิสระ (decentralized exchange) ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาตัวกลางอย่างเช่นพ่อค้าที่รู้ภาษาหลากหลาย และเมื่อเราเป็นต้นกำเนิดของสกุลเงินที่ใช้เป็นภาษากลาง ก็อาจได้รับอานิสงส์คล้ายการเป็นเจ้าของภาษาเช่นกัน จึงไม่น่าแปลกใจหากแต่ละประเทศจะอยากมีสกุลเงินเป็นของตนเอง